วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Chapter 1 : Marketing Theory_BUS702 : To present Dr.Vichit U-on. ByOranuch Tantisook _No.18


ความหมายและที่มา
 Phillip Kotler ให้ความหมายการตลาดว่า"เป็นกิจกรรมของมนุษย์ที่จะดำเนินเพื่อให้มีการตอบสนองความพอใจ และความต้องการต่างๆโดยอาศัยกระบวนการแลกเปลี่ยน"

        E. Jerome McCarthy ให้ความหมายการตลาดว่า "เป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมทั้งหลายที่เกี่ยวกับความพยายามให้องค์การบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ โดยอาศัยการคาดหมายความต้องการต่างๆ ของลูกค้าและยังรวมถึงการที่สินค้าและบริการผ่านจากผู้ผลิตไปยังลูกค้า เพื่อตอบสนองความพอใจให้กับลูกค้า"



        William Stanton ให้ความหมายการตลาดว่า "เป็นระบบของปฏิกิริยา กิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน การกำหนดราคา การส่งเสริมการตลาด และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งที่เป็นอยู่ปัจจุบัน และผู้บริโภคที่คาดหมายในอนาคต"


Core Marketing Concept :
แนวความคิดหลักทางการตลาด (Core Marketing Concept)
          แนวคิดการผลิต (The Production Concept) เก่าแก่ที่สุด  ผู้บริโภคนิยม   สนใจตัวสินค้ามากกว่ารูปแบบสินค้าทั่วไปราคาถูก ใช้ในประเทศที่กำลังพัฒนา
            แนวคิดผลิตภัณฑ์ (The Product Concept) ผู้บริโภคเน้นคุณภาพมากกว่าราคา ผู้ผลิตเองก็เน้นปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ บางครั้งมองข้ามความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค
            แนวคิดการขาย (The Selling Concept) เน้นการขายเชิงรุก (กระตุ้นการขาย)เช่น ลด แลก แจก แถม เพื่อให้ซื้อ ใช้กับสินค้าขายยาก (unsought goods)
          แนวคิดมุ่งตลาด (The Marketing concept) มุ่งเน้นลูกค้าและแสวงหากำไรจากความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพกว่าคู่แข่ง
          แนวคิดทางด้านลูกค้า(The Customer concept) เน้นความต้องการส่วนตัวเฉพาะลูกค้าแต่ละราย สร้างคุณค่าสัญญาว่าลูกค้าได้รับสิ่งดีที่สุดตลอดชีพ สร้างความภักดีต่อบริษัท
            แนวคิดทางการตลาดเพื่อสังคม (The Societal marketing concept) ค้นหา ความต้องการความสนใจของลูกค้าเป้าหมาย สร้างความพึงพอใจมากกว่าคู่แข่งขัน โดยเน้นรักษาความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม รักษาความสมดุลระหว่างการทำกำไรของบริษัท


ยุคการตลาดตามแนวคิดของ Phillip Kotler 
  ทฤษฎีการตลาดมวลชน (Mass Market) หรือยุค 1.0 เน้นการขายสินค้า (Product Centric)ขายความเป็น Mass เพราะผลิตจำนวนมากจนเกินความจำเป็น จึงต้องใช้การตลาดที่กระตุ้นการบริโภค หรือกระตุ้นกิเลสของคน
  จนถึงยุค 2.0 ยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร (The Information Age) ต้องใช้การตลาดที่มุ่งเอาใจผู้บริโภคผู้รอบรู้ (Consumer Centric)
   การตลาด 3.0 (Marketing3.0) ยุคที่กลับหัวคิดจากการตลาดยุคก่อน ซึ่งเป็นห้วงเวลาแห่งการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยค่านิยม ที่จะต้องอาศัยการตลาดครบทุกมิติ ทั้งการตลาดเชิงอารมณ์ (Emotional Marketing) และการตลาดเพื่อเอาชนะจิตวิญญาณ (Human Spirit Marketing)ตอบสนองความต้องการครบองค์รวมของความเป็นมนุษย์ ให้เข้าถึงแนบแน่นใกล้ชิดแบรนด์ไปตลอดกาล


องค์ประกอบที่สำคัญ
7P People, Process, Physical Evidence
Marketing 2.0 – เปลี่ยนจาก P เป็น C

ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix) – 4P
1.          Product ผลิตภัณฑ์
2.          Price
3.          Place ช่องทางการจัดจำหน่าย
4.          Promotion
กลยุทธ์ SCP
จาก Product กลายเป็น Customer Solutions
1.          Customer needs
2.          Customer Wants
3.          Customer Demand

Marketing 3.0 – Brand Identity, Brand Image and Brand Integrity 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น